วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การใช้เครื่องใช้ฟ้าภายในบ้าน

การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
            เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับทุกบ้านทุกครอบครัว  การใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า จึงควรใช้อย่างทนุถนอมให้ความสำคัญ และหมั่นดูแลรักษาให้ใช้งานได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณให้นานขึ้น วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆ ในการดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาฝากกัน ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดู เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณจะได้ใช้ได้อีกนาน ๆ นะคะ

อ่านเพิ่มเติม
http://www.megahome.co.th/th/product/product_detail/47

1. พัดลม   เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวก  ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกๆบ้าน  บางครั้งเครื่องปรับอากาศเสียก็ต้องใช้พัดลมช่วย   เพราะประเทศไทยอยู่ในแถบอากาศร้อน มีพัดลมมีหลายประเภท เช่นประเภท ตั้งพื้น  แขวนติดผนัง  ห้อยเพดาน  เป็นต้น
การดูแลรักษาทำได้ดังนี้
                                1. เปิดความเร็วลมพอควร
                                2. เปิดเฉพาะเวลาใช้งาน
                               
3. ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้
                                4. ไม่ควรให้เด็กพัดลม
                               
5. มั่นเช็ดล้าง ทำความสะอาด เดือนละครั้ง

2.เตารีด
          เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน ซึ่งในการรีดแต่ละครั้งจะกินไฟมาก ดังนั้นจึงควรรู้จัดวิธีใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย ดังนี้
                การดูแลรักษาทำได้ดังนี้
               
1. ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูว่าเตารีดอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ เช่น สาย ตัวเครื่อง เป็นต้น
               
2.  ตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า
                3. อย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะ
               
4. ดึงเต้าเสียบออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ

3.ตู้เย็น เครื่องแช่อาหาร
                 เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในบ้านอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งต้องรักษาดูแลเพื่อให้ยังคงใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และอยู่กับเราไปนานที่สุด ส่วนประกอบของตู้เย็นมี 4 ส่วนคือ
                1. Evaporator   คือ ตัวกลางของการถ่ายความร้อน
                2. Condenser  คือ  เครื่องควบแน่น
                3. Pressure  reducer คือ ตัวลดความดัน
                4. Compressor คือ  เครื่องอัดสารทำความเย็น
การดูแลตู้เย็น เราคววรทำได้ดังนี้
                1. ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะกับอาหารแต่ละประเภท เช่น เนื้อสัตว์ควรใส่ไว้ในช่องแช่แข็งอุณหภูมิ -5 องศา

                2. ไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น ควรทิ้งไว้ให้อาหารเย็นก่อน

           
3. ปิดประตูตู้เย็นให้สนิท

           
   4. หากยางขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข  ซ่อมแซมทันที

               5
. เลือกตู้เย็นหรือตู้แช่ชนิดมีประสิทธิภาพสูง

               6. ควรใช้ตู้เย็นขนาดเหมาะกับครอบครัว

              
7.ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน ให้หลังตู้ห่างจากฝาเกิน 15 เซ็นติเมตร เพื่อระบายความร้อนได้สะดวก ไม่เปลืองไฟฟ้า

              8. ควรหมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน

             
9.ควรเก็บเฉพาะอาหารเท่าที่จำเป็น

การเลือกซื้อตู้เย็นและตู้แช่ มีคำแนะนำให้ท่านพิจารณาก่อนซื้อ ดังนี้

           
1. เลือกขนาดให้พอเหมาะกับความต้องการของครอบครัว

           2. ตู้เย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่าแบบ 2 ประตู

            
3. ควรวางตู้เย็นให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

            
4. ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะกับจำนวนของที่ใส่

            
5. อย่าเปิดตู้เย็นทิ้งไว้นาน ๆ และอย่านำของร้อนมาแช่

            6. ต้องละลายน้ำแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำแข็งเกาะหนามากเกินไป

5. หม้อหุงข้าว  เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอีกชนิดหนึ่ง หากรู้จักใช้อย่างถูกต้อง จะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มาก โดยมีข้อแนะนำดังนี้

   
               
1. ไม่ควรให้ก้นหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ข้าวสุกช้า

                
2.หมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด จะทำให้ข่าวสุกช้าและเปลืองไฟ

            
    3. ใช้ขนาดหม้อหุงข้าวที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว

                
4. ควรดึงปลั๊กออกเมื่อข้าวสุกพอแล้ว ปัจจุบันหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีใช้กันมาก หม้อต้มน้ำ หม้อต้มกาแฟ

                 5. ควรปิดฝาให้สนิทขณะต้ม

                  6. ขณะที่หุงข้าวไม่ควรเปิดฝาหม้อหุงข้าว

                  7. ถอนปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งาน

                  8. มั่นตรวจดูแผ่นความร้อนที่รองหม้อในให้ดี เพราะอาจมีแมลงติดอยู่  เช่นจิ้งจก 

                  9. ไม่ควรให้เด็กเล่นหม้อหุงข้า
 

6.เครื่องซักผ้า
                เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในปัจจุบัน ช่วยทุนแรง และสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมา ประหยัดเวลา เพราะเราสามารถทำอย่างอื่นได้ในขณะนั้น   วิธีการดูแลรักษามีดังนี้

           
1. ควรใส่ผ้าแต่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไป และไม่มากจนเกินกำลังเครื่อง

           
2. ควรใช้น้ำเย็นซักผ้า ส่วนน้ำร้อนให้ใช้เฉพาะกรณีรอยเปื้อนไขมันมาก

           
3. ควรใส่ผ้าที่จะซักตามคำแนะนำของแต่ละเครื่อง

           4.  หากมีผ้าต้องซัก 1-2 ชิ้น ควรซักด้วยมือ

           
5. หากมีแสงแดดไม่ควรใช้เครื่องอบแห้ง ควรจะนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จมาตากแดด

7.เตาอบไมโครเวฟ

          เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ใช้ความร้อนมาทำให้อาหารสุก หากให้ความร้อนสูญเสียไปโดยการใช้ไม่ถูกวิธี ทำให้อาหารสุกช้าลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีข้อแนะนำการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้อย่างประหยัดคือ

           1. ควรเตรียมเครื่องปรุงในการประกอบอาหารให้พร้อมก่อนใช้เตา

            
2. ควรใช้ภาชนะก้นแบนและเป็นโลหะจะทำให้รับความร้อน จากเตาได้ดี

           3. ในการหุ่งต้มอาหารควรใส่น้ำให้พอดีกับจำนวนอาหาร

            
4. ในขณะอบ หรือ อุ่นอาหาร ไม่ควรเปิด

            
5. ถอดปลั๊ก เก็บสายหลังการใช้งาน

              6. ทำความสะอาดหลังการใช้งานเสมอ
            
8.เครื่องทำน้ำอุ่น   เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ ร่วมกับน้ำ ถ้าหากเกิดกระแสไฟรั่ว อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เราควรดูแลเมื่อใช้อย่างปลอดภัย วิธีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดและปลอดภัย


            
1. ปิดวาล์วทันทีเมื่อไม่ใช้งาน

            
2. หากมีรอยรั่วควรรีบทำการแก้ไขทันที

           3. ต่อสายลงดินในจุดที่จัดไว้ให้ของเครื่องทำน้ำอุ่น

            4. ปิดสวิชต์ไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้

            
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่อง

            
6. ใช้เครื่องขนาดพอสมควร

            
7. ปรับปรุงความร้อนไม่ให้ร้อนเกินความจำเป็น

            
8. ปิดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน

            
9. ในฤดูร้อนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่น

9.เครื่องปรับอากาศ     ประเทศไทยส่วนมากมีอากาศร้อน ดังนั้นเครื่องปรับอากาศจึงมีความจำเป็นอย่างมาก การดูแลเบื้องต้นของผู้ใช้ ช่วยในการประหยัดไปด้วย  ควรมีช่างมาดูแลด้วยอีกที  การดูแลเครื่องปรับอากาศควรปฎิบัติดังนี้

            
1.ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งเมื่อไม่อยู่  

           2. ปิดประตูหน้าต่างและผ้าม่านกันความร้อนจากภายนอก

            
3. ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส

            
4.ควรใช้เครื่องขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง

            
5. ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง

            
6. ควรติดตั้งเครื่องระดับสูงพอเหมาะ และให้อากาศร้อนระบายออกด้านหลังเครื่องได้สะดวก

           7. ควรบุผนังห้อง และหลังคาด้วยฉนวนกันความร้อน

           8. ควรบำรุงรักษาเครื่องให้มีสภาพดีตลอดเวลา

            
9. ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ และแผงระบายความร้อน

            
10. ในฤดูหนาวขณะที่อากาศไม่ร้อนมากเกินไป ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ

            
11. ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิดไม่ให้ความเย็นรั่วไหล

       การใช้เครื่องปรับอากาศให้มีความเย็นที่สบายต่อร่างกาย จะประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างได้ผล ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้

            
1. ควรเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง

            
2. ควรใช้ผ้าม่านกั้นประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก

            
3. ตั้งปุ่มปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อร่างกาย (ประมาณ 26 องศาเซลเซียส)

            
4. หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ

            
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่องปรับอากาศ


                เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทุกชนิดล้วนประดิษฐ์มาจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ซึ่งเป็นจำเป็นและมีความสะดวกสบายมากขึ้น ช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ดังเราควรใช้มันอย่างประหยัด และดูแลรักษาให้ยังคงใช้งานกับเราให้ได้ยาวนานที่สุด เพื่อความประหยัด ปลอดและถูกต้องในการใช้งาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การพัฒนาบุคคลภาพการปรับปรุงตนเอง

ขอบคุณภาพจากGoogle การพัฒนาบุคคลภาพการปรับปรุงตนเอง 1. ความหมายของคำว่า  บุคคิลภาพ  (Personality)   หมายถึง ลักษณะเฉพาะทางของบุคคล...