1. ความหมายของคำว่า บุคคิลภาพ
(Personality) หมายถึง ลักษณะเฉพาะทางของบุคคล เช่น กิริยาท่าทางและพฤติกรรมการแสดงออก หรือ บุคลิคภาพ
หมายถึงพฤติกรรมของมนุษย์ที่แสดงออกมาให้ผู้อื่นเห็น เช่น กิริยาท่าทาง วาจา
การแต่งกาย ซึ่งเราสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้มีบุคลิกภาพที่ดีได้
ซึ่งในปัจจุบันมีสถาบันเปิดสอนหลายสถาบันด้านการปรับปรุงและพัฒนาบุคลิภาพ
เพื่อให้เป็นผู้นำหรือเป็นผู้บริหาร
2. ปัจจัยที่มีผลต่อความแตกต่างของบุคลิกภาพ
2.1
พันธุกรรม เช่น รูปร่าง
หน้าตา กิริยาท่าทาง ลักษณะนิสัย ผอม สูง อ้วน เตี้ย ห้าวหาญ อ่อนหวาน หล่อ สวย
2.2 สิ่งแวดล้อม ได้แก่คนรอบข้าง ครอบครัว สังคมหรือชุมชน
2.3 ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม เช่น กิริการรับประทานอาหาร การเดิน
การใช้ชีวิตทั่วไป
3. ลักษณะของผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีและไม่ดี
-
บุคลิกภาพที่แสดงออกทางกิริยาอาการ เช่น ไม่เรียบร้อย กระโดกกระเดก สวยหล่อแต่เข้าตา
อวดดี ลืมตัว รีบร้อนลนลาน รูปงามแต่กิริยามารยาทไม่ดี เข้ากับใครได้หมด
-
บุคลิกภาพที่แสดงออกทางการแต่งกาย
เช่น ผิวดำแต่ใส่สีแดงสีรุนแรง
กาละเทศะการแต่งกายในสถานที่ต่างๆ
-
บุคลิกภาพที่แสดงออกทางรับประทานอาหาร เช่น กินเลอะเทอะ เละเทะ ไม่เรียบร้อย ไม่ระวัง หรือกินอย่างมีมารยาทควรตักแต่พองาม
-
บุคลิกภาพที่แสดงออกทางการพูด เช่น พูดจาไม่เกรงใจใคร เถียงไม่รู้จบ
สับปลับ หลวกหลวง เชื่อถือไมได้ ไม่รักษาคำพูด พูดแทรกขณะที่ผู้อื่นพูดอยู่
3.1 การแสดงออกทางกาย
ได้แก่ กิริยาท่าทาง การยืน การเดิน การนั่ง
3.1.1 ท่าทาง สง่า สุภาพ อ่อนน้อม ยิ้มแย้มเป็นมิตร
ไม่หยิ่งยโส ก้าวร้าว หน้าบึ้ง มองหน้าผู้อื่นเป็นศัตรู
3.1.2. การยืน เดินตัวตรง ไม่เอียงซ้าย ขวา มากไป
3.1.3 การนั่ง
นั่งตัวตรงเข่าชิด เท้าชิด ไม่นั่งไข่วห้าง เท้าคาง นั่งหมอบกับโต๊ะ นั่งโยกโต๊ะ
สั่นขา
3.1.4 การเดิน เดินตัวตรง ไม่เอียงตัวเดิน ลากขา ลาก
กระแทกท้าวเสียงดัง
3.1.5 การแต่งกาย
เสื้อผ้า ตามจารีตประเพณี
ให้ถูกกาละเทศะสถานที่ ไม่เปิดเผยจนเกินไป เหมาะสมกับวัย
3.1.6 ทรงผม
เรียบร้อย ไม่รกรุงรัง
หน้าตารกรุงรัง
3.2 การแสดงออกทางวาจา ได้แก่
3.2.1 การพูดไพเราะ อ่อนหวาน มีรับคำ เช่น คะ
ครับลงท้าย จ๊ะ หรือหางเสียง ไม่กระโชกกระชาก ไม่ตลวดเสียงดัง หรือแหลมสูง
3.2.1 พูดคำจริง
ไม่สับปลับ หลวงหลวก เปลี่ยนไปตามอารมณ์ ผิดนัดผิดเวลาทำให้เสียความรู้สึกได้
3.2.2 พูดให้กำลังใจ
ไม่ริษยา ไม่พูดให้ร้าย หรือใส่ร้ายผู้อื่น หรือพูดบั่นทอนกำลังใจคนอื่น
3.2.3
การแสดงออกทางลักษณะนิสัย เช่น ควรเอาใจใส่ผู้อื่น เสียสละเพื่อส่วนรวม
ไม่ใช่สนใจแต่ตนเอง เห็นแก่ตัว
3.3.4
รับผิดชอบ ตรงเวลา ไม่ควรผิดนัด
3.3.5 รักการทำงาน ซื่อสัตย์ต่หน้าที่
รักษาประโยชน์ของหน่วยงาน องค์อร ไม่ทำงานพ้นไปวันๆ หรือเรียนพ้นไปปวัน
แต่ไม่สนใจงานใด เพราะไม่ว่าจะเรียนหรืองานก็วัดคุณค่าของผลงาน ไม่ยักยอก
และทุจริตเมื่อมีโอกาส
4. กลวิธีในการปรับปรุงและพัฒนาบุคลิกภาพ
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของตนเองให้ปรากฏแก่สายตาบุคคุลทั่วไป
เพื่อให้เกิดความประทับใจ เลื่อมใสศรัทธาและต้องการเป็นมิตรด้วย การพัฒนาบุคลิกภาพจึงต้องปรับปรุงทั้งบุคลิกภาพทั้งภายนอกและภายใน
4.1 การพัฒนาทางกาย
ได้แก่ ร่างกาย เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ความสะอาดของร่างกาย การแต่งกาย
กิริยาท่าทางที่แสดงออกภายนอก
4.2 การพัมนาทางใจ ได้แก่ ลืมอดีตและให้อภัย มีน้ำใจใฝ่ธรรมะ
4.3 พัฒนานิสัยตนเอง ลักษณะนิสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับความต้องการและสิ่งที่ขาดหายไป กลบเกลื่อนและไม่ยอมรับฟังความจริง บางคนอาจกลบเกลื่อนจุดด้อยของตนเอง
แสดงออกภายนอก แข็งก้าว รุนแรง หยอหยิ่ง มักแสดงด้วยการข่มผู้อื่นได้ ถ้าบางคนได้รับความกดดันในครอบครัว
หรือรองรับอารมณ์คนในครอบครัว อาจแสดงออกมาด้วยบุคลิกที่ก้าวร้าว เกรี้ยวกราด
เจ้าอารมณ์หรือไม่ก็หนีถอยจากสังคม มักเก็บตัว
ส่วนบางคนอาจมีครอบครัวที่ไม่ค่อยพูดจา เงียบ
ก็จะแสดงออกมาเป็นคนไม่กล้าแสดงออก เก้อเขิน ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง สิ่งที่กล่าวมาอาจไม่ใช่ทั้งมด
เป้นเพียงการสันนิฐานตามลักษณะชีวิตความเป็นอยู่
บางคนอาจหาทางออกและแสดงกิริยาท่าท่างของตนเองออกมาจากสิ่งที่เลียนแบบพฤติกรรมหรือตามความชอบของผู้อื่นได้
การปรับปรุงและพัฒนาลักษณะนิสัย
1. สำรวจตนเองว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไร เช่น กินเร็ว เดินเร็ว พูดเร็ว
หยาบคาย รีบร้อน ไม่รอใคร ฯลฯ
2. มองโลกในแง่ดี
มองทุกมุมเห้นเรื่องดี แต่ไม่ใช่การโกหกตนเอง ลืมเรื่องที่ทำเสียใจเสียบ้าง
3.
เชื่อมั่นในตเองว่าสามารถทำได้ ให้กำลังใจตนเอง อย่าท้อ
อย่าอ้างว่าไม่สวย ไม่รวย ไม่หล่อ เรียนไม่สูง
4. ยอมรับความคิดเห็นและคำตำหนิของผู้อื่น
เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุง
5. เรียนรู้จากตำรา หาข้อมูลสื่อต่างๆ ความรู้เพิ่มเติมด้านต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง
6. ปรับเปลี่ยนเจตคติ (Attitude) เลิกความคิดที่ว่า
ตนเองทำไม่ได้ เลิกดูถูกตนเอง หรือแม้แต่ถูกถูกฐานันดรของตนเอง
7. ปรับเปลี่ยนรสนิยม เช่น
พอเพียงในความสันโดษ พอเพียงในสิ่งที่เป็น การดื่มหล้า การใช้ของราคาแพง
เที่ยวกลางคืน เตร็ดแตร่ ก็ไม่ได้ทำให้ตนเองดูดีขึ้นในสายตาใครหรือแม้แต่คนที่ตนรัก
หากแต่จะเสียทรัพย์เสียสุขภาพเสียเวลา
5. ประโยชน์ของผู้มีบุคลิภาพดี
5.1 ผู้มีบุคลิกภาพดีย่อมมีคนชื่นชมมากมาย
5.2 บุคคลิกภาพดีมีอาชีพให้เลือกทำ
5.3
บุคคลิกดีมีความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจการทำงาน
สรุปว่าการมีบุคลิกภาพดีทำให้ได้รับการยอมรับในสังคมและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
บุคลิกภาพสามารถพัฒนนาได้มาจากความดีที่มีอยู่ในตนเอง จากการอบรมของครอบครัว
สิ่งแวดล้อมและสนใจใฝ่รู้ฝึกฝนตนเองเพิ่มมากขึ้น
ปรับปรุงพัฒนาทางกาย เช่นการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ปรับปรุงนิสัย ไม่ดื้อรั้น อวดดี ทำให้มีความรอมชอม มีความสุภาพมากขึ้น สร้างสิ่งดีงามให้ตนเอง ปรับปรุงจิตใจ
เพื่อให้ส่งผลให้บุคลิกภาพงดงาม มีมารยาทและมีกาละเทศะ ไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอม สวยหล่อ
แต่ไม่มีมารยาททางสังคม ให้ดูเป็นผู้ดีในสายตาของผู้ที่พบเห็น และน่าคบหาเป็นมิตรภาพที่ดี